ผู้ชายแต่งตัวไปสัมภาษณ์ยังไง

จะถึงวันสัมภาษณ์งานแล้วแต่ไม่รู้จะแต่งตัวยังไงไปสัมภาษณ์ดี กลัวว่าเสื้อผ้าที่ใส่จะผลต่อการตัดสินใจรับเข้าทำงานของคณะกรรมการจนอาจไม่ได้งาน

หลายคนให้ความสำคัญกับการสร้าง First Impression หรือความประทับใจแรก เพื่อเป็นการเริ่มต้นการสัมภาษณ์ที่ช่วยเพิ่มคะแนนความพึงพอใจของผู้สัมภาษณ์ได้ พูดให้เข้าใจง่ายก็คือจะทำให้พวกเขามีความยินดี เปิดใจรับฟังแคนดิเดทมากกว่าปกติ ซึ่งหากต้องเลือกคนที่มีความสามารถเท่าๆ กันแล้ว คนที่ให้ First Impression ได้ดีกว่ามีแนวโน้มจะถูกรับเลือกมากกว่านั่นเอง

เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันสัมภาษณ์เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยสร้างความประทับใจแรกได้ชัดที่สุด จึงไม่แปลกที่หลายคนเป็นกังวลว่าควรจะสวมใส่อะไรไปดีเพื่อให้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดูดีที่สุด ซึ่งในปัจจุบันสไตล์การแต่งตัวที่นิยมกัน ก็คือ ‘Business Casual – สไตล์หนุ่มนักธุรกิจแบบชิวๆ’

และนี่คือสิ่งที่คุณผู้ชายต้องคำนึงถึงในการแต่งตัว

1) เสื้อเชิ้ต

อย่างที่ทราบกันดีกว่า การสวมใส่ เสื้อเชิ้ตคอปกแขนยาว เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยสุดและทำให้คุณดู Professional มากที่สุด ในขณะที่ เสื้อเชิ้ตคอปกแขนสั้น จะให้ความรู้สึกเหมือนกับนักเรียนมหาลัยที่เป็นเด็กใหม่น้อยประสบการณ์ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องไม่ลืมรีดให้เรียบร้อยเพราะรอยยับยู่ยี่ที่ปรากฏยังตีความได้ว่าคุณไม่เตรียมตัว

ปล. 1 ถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่เสื้อเชิ้ตไม่พอ คุณต้องใส่สูททับแม้ว่าอากาศเมืองไทยจะไม่เอื้อก็เถอะ (Professional Business)

ปล. 2 ถ้าอยากเพิ่มความเป็นนักธุรกิจเข้าไปให้ดูดีมากยิ่งขึ้น แนะนำให้ใส่เนคไทเพิ่ม

2) กางเกงแสล็ค

เพิ่มความทะมัดทะแมงด้วย กางเกงแสล็คขายาว อย่างสีดำหรือสีกรมเข้าไปให้พอดีกับช่วงขา จะนั่ง จะลุก ต้องไม่ลำบากหรือรัดติ้วจนเกินไป เน้นใส่สบายเสริมบุคลิกภาพให้ดูมีความมั่นใจเวลาเดินก็พอ ที่สำคัญคือต้องไม่ลืมใส่ เข็มขัดสีเข้ม ให้เข้ากับสีของกางเกง

3) รองเท้าหนัง

ในส่วนของรองเท้าที่เข้ากันกับชุด รองเท้าหนังหุ้มข้อ ยังคงเป็นไอเทมที่ดีที่สุด สวมใส่คู่กับถุงเท้าสีสุภาพจะยิ่งขับความเป็นนักธุรกิจที่ดุน่าเชื่อถือออกมา หลีกเลี่ยงถุงเท้าข้อสั้นที่ทำให้ดูเหมือนไม่ได้ใส่ เพราะมันอาจทำให้ดูชิวเหมือนอยู่ที่บ้านไม่ได้มาสัมภาษณ์งาน

4) เครื่องประดับ

ถ้าอยากแสดงตัวตนของตัวเองด้วยเครื่องประดับแล้วล่ะก็ ลองเลือก นาฬิกา หรือ แหวน ที่ไม่โดดไปจากธีมเครื่องแต่งกายตามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจบริบทของสังคมไทยว่า ไอเทมแฟชั่นอย่างตุ้มหู อาจทำให้ภาพลักษณ์ที่แย่กว่า เนื่องจากสังคมไทยยังตีตราว่าผู้ชายที่เจาะหู เจาะจมูก มีแนวโน้มเป็นคนไม่ดี (ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่ทุกคน ยังไงก็ Play Safe ก่อนนะคะ)

5) หน้าและผม

ดูแลความเรียบร้อยของหนวดและผมด้วยการเซ็ตให้เนี้ยบ โกนหนวดให้เรียบร้อย ซึ่งถ้าคุณไปสมัครบริษัทต่างชาติเรื่องหนวดเคราไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลใจสักเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องโกนให้เกลี้ยง ขอแค่ตัดแต่งให้ดูดีรับกับรูปหน้าก็พอแล้ว

ข้อควรระวัง

เรายังหนีค่านิยมของสังคมไทยแบบดั้งเดิมไม่ได้ 100% ทำให้การมี รอยสัก เป็นเรื่องผิดในการสมัครงานทั้งที่ไม่ใช่ทุกคนที่มีรอยสักจะทำเรื่องแย่ๆ สักหน่อย ถ้าคุณมีรอยสักในร่มผ้าหรือสามารถซ่อนให้ลับสายตาด้วยเสื้อผ้า คุณไม่จำเป็นต้องกังวลใจเลยตรงส่วนนี้

จริงๆ แล้ว การแต่งกายเพื่อสัมภาษณ์งานในยุคปัจจุบันไม่ได้เน้นความเป็นอนุรักษ์นิยมแบบสมัยก่อน ที่ต้องดูดีทุกระเบียดนิ้ว โดยเฉพาะเหล่าโปรแกรมเมอร์ที่สามารถแต่งตัวแบบ Casual ไปทำงานได้เลย คุณจึงควรดูวัฒนธรรมองค์กรประกอบการเลือกเสื้อผ้าใส่ เรียกได้ว่า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม

ขอแค่คุณแต่งออกมาแล้วดูถูกกาลเทศะและดูดีในแบบของตัวเองก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะความรู้ความสามารถในการทำงานต่างหากที่เป็นหัวใจสำคัญในการคัดเลือกคนเข้าทำงาน