สัมภาษณ์ผ่านแล้ว แต่รอผลสัมภาษณ์จากอีกบริษัทหนึ่งอยู่
บางครั้งการสมัครงานก็เหมือนการสอบแอดมิชชั่น คุณจะมีบริษัทที่เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจที่อยากเข้าไปทำงาน แต่โชคชะตาก็เล่นตลก HR โทรมาแจ้งว่าคุณผ่านสัมภาษณ์และอยากรับคุณเข้าทำงานแต่ดันไม่ใช่ที่ๆ คุณอยากเข้าจริงๆ ในขณะเดียวกันบริษัทที่อยากได้ก็ยังไม่แจ้งผลสัมภาษณ์งานเสียที ไม่กล้าปฏิเสธที่แรกไปตรงๆ เพราะไม่มั่นใจว่าจะได้งานจริงหรือเปล่า แต่จะให้บอกตรงๆ ว่ากำลังรอผลฯ อีกที่หนึ่งก็ดูเป็นการเสียมารยาท รับมือกับสถานการณ์นี้ยังไงดี?
เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ
บริษัท A = บริษัทที่อยากเข้าเป็นอันดับสอง + ได้รับออฟเฟอร์
บริษัท B = บริษัทที่อยากเข้าเป็นอันดับหนึ่ง + ยังไม่รู้ผลสัมภาษณ์
สถานการณ์ : บริษัท A โทรมาแจ้งผลสัมภาษณ์ว่าผ่าน โดยการลังดำเนินการส่งเอกสารการรับเข้าทำงาน (Job Offer) ให้กรอกเอกสารแล้วส่งกลับไปเป็นการยืนยัน ในขณะที่คุณต้องการรอผลสัมภาษณ์จากบริษัท B ที่อยากร่วมงานด้วยมากกว่า
ห้ามบอกบริษัท A เด็ดขาดว่าคุณกำลังรอผลของอีกที่หนึ่งอยู่
อาจจะฟังดูแปลก แต่ตามหลักจิตวิทยาแล้วการที่คุณซื่อสัตย์ในคำตอบและบอกบริษัท A ไปตรงๆ ว่าคุณกำลังรอผลสัมภาษณ์จากอีกที่หนึ่งอยู่นั้น เป็นการบอกนัยๆ ว่าบริษัท A ไม่ได้สลักสำคัญขนาดที่คุณจะตอบตกลงในทันที โดยที่บริษัท B ต่างหาก ที่เป็นที่ๆ คุณอยากเข้าจริงๆ หลังจากวางสายมีแนวโน้มสูงมากที่ HR จะเริ่มสัมภาษณ์คนอื่นต่อเพราะไม่อยากเสียเวลากับความไม่แน่นอนของคุณ มันคงดีกว่าที่พวกเขาจะมูฟออนและคิดว่าคุณปฏิเสธงานเสียแต่เนิ่นๆ ดีกว่าเป็นตัวสำรองหรือรับคุณมาแล้ว คุณเปลี่ยนใจไปเริ่มงานที่อื่นภายหลัง เรียกว่าเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
ตอบบริษัท A ไปว่าคุณต้องการเวลาในการอ่านรายละเอียด
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่แคนดิเดตจะขอเวลาในการอ่านรายละเอียด Job Offer การให้ความสำคัญกับเอกสารเป็นเรื่องที่ควรทำ โดยคุณอาจขอเวลาอย่างน้อย 3 วัน มากสุดไม่เกิน 1 อาทิตย์เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุ ซึ่งสามารถเพิ่มน้ำหนักคำพูดของคุณด้วยการอ้างเหตุผลอย่างการแจ้งลาออกกับบริษัทปัจจุบันร่วมด้วยได้ การให้กรอบระยะเวลาชัดเจนนอกจากจะช่วยให้บริษัท A สบายแล้วยังเป็นการสร้าง Deadline ให้กับบริษัท B ในการแจ้งผลสัมภาษณ์อีกด้วย
โทรหาบริษัท B เพื่อติดตามผลสัมภาษณ์ทันที
หลังจากวางสายจากบริษัท A แล้ว ที่ต้องทำคือการโทรหาบริษัท B ทันทีเพื่อตามผลสัมภาษณ์ แจ้ง HR ไปว่าคุณเพิ่งได้รับออฟเฟอร์จากบริษัทหนึ่ง แต่บริษัท B คืออันดับหนึ่งที่อยากเข้า ไม่แน่ใจว่าคุณยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาหรือไม่ ถ้าใช่ HR สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้เมื่อไหร่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากวางสายเป็นไปได้หลายทาง แต่ที่แน่ๆ พวกเขารู้แล้วว่าอาจเสียคุณไปให้บริษัทอื่นหากไม่รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จ
กรณีบริษัท B ตอบรับคุณเข้าทำงาน
หากพวกเขาสามารถแจ้งผลการสัมภาษณ์ได้ภายในกรอบเวลาที่คุณตั้งเอาไว้ อย่าลืมขอเอกสาร Job Offer อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความอุ่นใจ เนื่องจากการรับปากเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่าเขาจะรับคุณเข้าทำงาน 100%
ทางฝั่งบริษัท A คุณสามารถโทรไปปฏิเสธงานได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องปิดบังเหตุผลอีกต่อไป หากบริษัท A ยังอยากได้ตัวคุณเข้าทำงาน พวกเขาจะเสนอ Counter Offer หรือข้อเสนอที่ดีกว่าเดิมเพื่อรั้งตัวคุณเอาไว้ ทั้งนี้ก็ขี้นอยู่กับการตัดสินใจอีกทีว่าข้อเสนอนั้นน่าสนใจมากพอที่จะทำให้คุณเปลี่ยนใจหรือไม่ แต่จำไว้ว่า คุณต้องขอบคุณที่พวกเขาสละเวลาในการสัมภาษณ์ ให้ความสนใจในโปรไฟล์ของคุณ เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าในอนาคตอาจมีเหตุให้วนกลับมาเจอกันก็ได้ ดังนั้นอย่าตัดความสัมพันธ์ให้จบไม่สวย
กรณีบริษัท B ไม่มีความชัดเจนให้
ในกรณีที่บริษัท B ไม่สามารถตอบได้ว่าจะสามารถแจ้งผลการสัมภาษณ์ของคุณได้เมื่อไหร่ หรือมีท่าทีปฏิบัติกับคุณแปลกไป เช่น ตอบแบบส่งๆ ขอไปที ไม่อยากตอบคำถามอะไรที่เป็นประโยชน์กับคุณ หรือปล่อยให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์คลุมเครือโดยไม่สนว่าคุณจะรู้สึกยังไง คุณสามารถรอเวลาจนถึง Deadline ที่ได้ให้ไว้กับบริษัท A ด้วยความหวังว่าพวกเขาจะติดต่อกลับ แต่ถ้าไม่ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรมูฟออนไปต่อกับบริษัท A ดีกว่า บางที…ความไม่ชัดเจนนั่นแหละคือความชัดเจนแล้ว
กรณีบริษัท B ติดต่อกลับมาเมื่อคุณตกลงกับบริษัท A ไปแล้ว
สถานการณ์อึดอัดใจจะเกิดขึ้นเมื่อคุณตกลงรับออฟเฟอร์จากบริษัท A ไปแล้ว แต่บริษัท B ดันติดต่อกลับมาในภายหลังว่าคุณผ่านสัมภาษณ์ ในกรณีนี้คุณต้องใช้วิจารญาณมากขึ้น เนื่องจากการตัดสินใจกลับไปยังบริษัท B อาจหมายถึงการที่ความสัมพันธ์ของคุณกับบริษัท A จะจบลงไม่ดีเท่าไหร่นัก คุณทำให้พวกเขาเสียเวลาในการเตรียมเอกสารและหยุดขั้นตอนการสรรหาบุคลากรไปโดยเปล่าประโยชน์ ทางเลือกนี้ คุณต้องแน่ใจว่า…
- คุณรับได้ ถ้าในอนาคตการกลับมาสัมภาษณ์งานกับบริษัท A อาจมีปัญหา
- คุณโทรปฏิเสธบริษัท A อย่างเป็นทางการและมีเหตุผล ไม่หนีหายไปเฉยๆ
- คุณโทรแจ้งบริษํท A ทันที่ที่ตัดสินใจได้ ไม่ล่าช้าจนเกินไป
Jitkarn Sakrueangrit
Graphic & Web Designer, Content Creator,
Copywriter, Marketing Specialist
คุณน่าจะชอบเรื่องเหล่านี้
รอผลสัมภาษณ์งาน…แบบไม่เสียเวลาเปล่า
สัมภาษณ์งานจบไปหลายวัน แต่ HR ยังไม่ติดต่อกลับมาแจ้งผลสัมภาษณ์สักที ยิ่งรอนาน นับวันยิ่งทรมาน ทำยังไงดี? รับมือกับการรอผลสัมภาษณ์นานขนาดนี้
5 เรื่องเคลียร์ให้ชัด ก่อนเซ็นสัญญาเริ่มงานใหม่
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร! เช็คให้ชัวร์ เคลียร์ให้ชัด ก่อนตัดสินใจตกลงทำงานที่ใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง จะได้ไม่พลาดซ้ำสองหนีเสือปะจรเข้