5 เรื่องเคลียร์ให้ชัด ก่อนเซ็นสัญญาเริ่มงานใหม่

สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร! เช็คให้ชัวร์ เคลียร์ให้ชัด ก่อนตัดสินใจตกลงทำงานที่ใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง จะได้ไม่พลาดซ้ำสองหนีเสือปะจรเข้

ข่าวดีที่รอคอยมาเคาะถึงประตูหน้าบ้าน ในที่สุดก็ถึงวันที่ HR โทรมาแจ้งผลสัมภาษณ์เสียที แต่คุณไม่จำเป็นต้องตอบรับอย่างทันทีทันใด จงตั้งสติให้มั่นและให้เวลากับตัวเองได้คิดทบทวนถึงข้อดี-ข้อเสียของการตัดสินใจครั้งนี้อย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง โดยอาจแจ้งกับ HR ไปว่าคุณรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติที่ผู้สัมภาษณ์ทุกคนไว้วางใจ อยากให้เขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ แต่คุณขอเวลาไตร่ตรองข้อเสนอ (Job Offer) ก่อน โดยอาจจะติดต่อกลับเร็วที่สุด ไม่เกิน 3 วันทำการ

อย่าเพิ่งรับข้อเสนอถ้ายังไม่ได้พิจารณา 5 เรื่องดังต่อไปนี้

1. ความคาดหวังขององค์กร

กลับไปอ่านรายละเอียดงาน (Job Description) อีกครั้งอย่างละเอียดให้ทราบถึงขอบเขตงานที่คุณต้องรับผิดชอบ ซึ่งถ้าหากมีส่วนไหนที่ยังค้างคาและไม่เคลียร์จากการสัมภาษณ์งานครั้งสุดท้าย การต่อสายตรงพูดคุยกับหัวหน้างานโดยตรงไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดอีกต่อไป เพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันในส่วนของความคาดหวังของหัวหน้า ของทีม ขององค์กรที่มีต่อคุณ โดยอาจรวมไปถึง KPI ยอดขาย Performance ฯลฯ สิ่งเหล่านั้นยังเป็นเรื่องที่คุณรับมือได้อยู่หรือไม่

2. วัฒนธรรมองค์กร

ตรวจสอบวัฒนธรรมองค์กรให้ดี เพราะการเปลี่ยนงานแต่ละครั้งจะส่งผลต่อชีวิตของคุณโดยตรง เนื่องจากจะเป็นที่ๆ เราใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตอยู่ในที่ทำงานนอกจากเตียงนอน ถ้าคุณต้องการงานที่ให้ Work-life balance แต่องค์กรให้ความสำคัญกับการทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ใครเลิกก่อนจะถูกเขม่นและเรียกเข้าห้องดำ คุณคงรู้ว่าที่นี่อาจไม่ใช่ที่ๆ คุณจะทำไปได้ตลอด

นอกจากนี้ การพบปะเพื่อนร่วมทีมก่อนตัดสินใจอาจเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดอย่างมาก เพราะพวกเขาจะให้ความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา ถึงข้อดี-ข้อเสียของทีม จากการพูดคุยกับพวกเขาหากคุณรู้สึกถึงความสบายใจนั่นอาจเป็นสัญญาณว่าวัฒนธรรมขององค์กรนี้ไปในทิศทางบวก

3. เงินเดือนและสวัสดิการพนักงาน

ก่อนหน้านี้ คุณอาจสับสนว่าควรพูดถึงเงินเดือนในช่วงไหนดี หากไม่มีการเอ่ยถึงตัวเลขในช่วงระหว่างการสัมภาษณ์งานเลย เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการสอบถามค่าตอบแทนและสวัสดิการพนักงานอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจ ถ้าตัวเลขเงินเดือนไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิด แต่มีสวัสดิการอื่นๆ ที่ตอบโจทย์อย่างโบนัส โครงสร้างค่าคอมมิชชั่น วันหยุดลาพักร้อน การทำงานแบบ Flexible เข้าเวลาไหนก็ได้ ฯลฯ อาจทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าที่นี่เหมาะสมกับคุณหรือเปล่า

คุณไม่ได้เป็น ‘ตัวเลือก’ แต่คุณคือ ‘คนเลือก’ ที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

4. โอกาสในการเติบโต

การทำงานไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย คงไม่ต่างจากเรือที่ไม่มีหางเสือ คุณคงไม่อยากทำงานเป็นหนูติดจั่น วนลูปเดิมซ้ำๆ ทั้งปีทั้งชาติเป็นแน่ เช็คให้ชัวร์ว่า career path หรือเส้นทางการปรับตำแหน่งในสายงานเป็นอะไรที่ชัดเจน เข้าใจได้และทำได้จริง เช่น

ทำงานหนึ่งปีมีการปรับเงินเดือน
หากพนักงานมี Performance ในการทำงานที่โดดเด่น มีการพิจารณาตำแหน่งรองรับกับความสามารถ
ตำแหน่งที่คุณสมัครมีเส้นทางการโปรโมทชัด เป็นต้นว่า ตำแหน่งจูเนียร์ > ซีเนียร์ > ผู้ช่วยผู้จัดการ > ผู้จัดการ ทำให้คุณทราบว่าอยู่ตรงไหนขององค์กรและต้องทำอย่างไรจึงจะไปถึงตำแหน่งสูงๆ ได้
บริษัทมีโปรแกรมการฝึกอบรมพนักงานอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาศักยภาพในสายงานให้ทันยุคสมัยและความไวของเทคโนโนโลยี

5. ข้อตกลงและเงื่อนไขการว่าจ้าง

ท้ายที่สุดนี้ การขอเวลาอ่านเงื่อนไขการว่าจ้างในสัญญาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจรับออฟเฟอร์ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย คุณสามารถตรวจสอบว่าทุกอย่างที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้สัมภาษณ์พูดเอาไว้ระหว่างการสัมภาษณ์นั้นปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรอยู่ในสัญญาจ้างจริงๆ ไม่ใช่การขายฝัน โดยอาจรวมไปถึงการตรวจสอบข้อมูลตัวเลขเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ จำไว้ว่า คุณไม่สามารถสู้คดีหรือเรียกร้องอะไรได้หากไม่มีหลักฐาน เพราะคำพูดเพียงอย่างเดียวนั้นไม่ได้ให้น้ำหนักมากพอ

นอกจากนี้ ข้อตกลงและเงื่อนไขสำคัญอย่าง การลาออก ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ในบางบริษัทจะตั้งกฏเกณฑ์เอาไว้ป้องกันภาวะ ‘สมองไหล’ อย่างเช่น การที่คุณไม่สามารถลาออกไปร่วมงานกับบริษัทคู่แข่งเป็นเวลา 6 เดือน – 2 ปี หรือการแจ้งลาออกล่วงหน้าเป็นเวลา 30 – 90 วัน เป็นสิ่งที่คุณรับได้หรือไม่ หากมีส่วนไหนที่คุณไม่เข้าใจหรือมีข้อความกำกวมที่ทำให้คุณไม่สบายใจ คุณมีสิทธิ์ในการเรียกร้องให้ฝ่ายบุคคลแก้ไขสัญญาจ้างก่อนเซ็นสัญญาตกลง

การรีบตอบรับ Job Offer ในทันทีทันใด ไม่เพียงแต่ทำให้คุณพลาดโอกาสในการตรวจสอบข้อมูลอย่างถี่ถ้วนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสิ้นหวังหรือความคาดหวังในการหางานที่มีมากเกินพอดี ในบางบริษัทอาจใช้จุดอ่อนของคุณตรงนี้ในการต่อรองเงินเดือนให้ลดลงได้ จงสู้อย่างมีชั้นเชิงแม้ในวินาทีสุดท้าย เพราะคุณไม่ได้เป็น ‘ตัวเลือก’ แต่คุณคือ ‘คนเลือก’ …เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง