มีแผนเปลี่ยนงานต้องอ่าน ทักษะแห่งอนาคตที่จำเป็นต้องมี by Find Your Job

มีแผนเปลี่ยนงานต้องอ่าน! ทักษะแห่งอนาคตที่จำเป็นต้องมี

การ Disrupt จากเทคโนโลยีทำให้โลกหมุนไวขึ้น ถ้าคุณไม่ปรับตัวก็อาจตกเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลงนี้และถูก AI แย่งงานไปในที่สุด

เมื่อเราได้รู้จักเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์​ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญในวิทยาการคอมพิวเตอร์เนื่องจากระบบสามารถคิดวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เกิดการเรียนรู้ในตัวมันเอง คล้ายความฉลาดของมนุษย์ จึงเป็นข้อถกเถียงถึงผลกระทบของ AI ในวงกว้างเนื่องจากเทคโนโลยีตัวนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อตลาดแรงงานโดยตรง บริษัทหลายแห่งจะยอมจ่ายเงินเพื่อลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ (Human Errors) นั่นหมายความว่า มีโอกาสที่งานหลายอย่างจะหายไปในอนาคต

ถึงเวลาที่ต้องย้อนกลับมาดูอาชีพปัจจุบันของคุณแล้ว ว่า มีแนวโน้มที่จะอยู่รอดปลอดภัยหรือคุณจำเป็นต้องปรับตัวเสียตั้งแต่วันนี้เพื่อให้ยังคงมีงานทำในวันหน้า

เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ

ความเข้าใจผิด AI ไม่ได้มาแย่งงาน!?!

จากการแพร่ระบาดของโควิด หลายคนสังเกตเห็นแล้วว่ามันทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยคนส่วนใหญ่นั้นถูกบังคับให้ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีไปโดยปริยาย เช่น สั่งแกร๊ปแทนการออกไปซื้อของ จ่ายเงินผ่านแอพแทนการจับเงินสด ฯลฯ ซึ่งเบื้องหลังของสิ่งเหล่านี้ถูก Drive ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อว่า AI ทั้งสิ้น

แม้การปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยีครั้งที่ 4 ที่ขับเคลื่อนโดย AI จะเปลี่ยนแปลงฟันเฟืองขั้นพื้นฐาน รวมถึงวิธีที่เราทำงานและใช้ชีวิต แต่ AI อาจไม่ได้เข้ามาแย่งงานจนเกิดการว่างงานเหมือนอย่างที่เราคิด ตรงกันข้าม มันกลับกลายเป็นการสร้างงานมากกว่า

ทักษะแห่งอนาคต งานที่จะหายไป งานที่จะเป็นที่ต้องการในอนาคต

จากรายงานของ The Future Job Report 2020 ทำให้เราสามารถคาดการณ์แนวโน้มความต้องการของงานในอนาคต เป็นความจริงที่งานบางอย่างจะหายไปให้เครื่องจักรทำแทน แต่ขณะเดียวกันก็เกิดอาชีพใหม่ๆ ขึ้นด้วย เราจึงต้องปรับตัวและเสริมสร้างทักษะใหม่ (Reskill & Upskill) ให้ที่สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

1. การคิดนอกกรอบ

ทักษะที่เราได้เปรียบมากยิ่งกว่าหุ่นยนต์ คือ การคิดอย่างสร้างสรรค์ด้วยจินตนาการที่ลึกล้ำจนยากเกินที่สมองของเครื่องจักรจะสามารถเรียนรู้ได้ เพราะไม่มีแบบแผนที่ชัดเจนและแน่นอน คุณจึงต้องฝึกฝนการคิดนอกกรอบ หลีกเลี่ยงรูปแบบที่ซ้ำซาก จำเจ เพื่อค้นหาช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างไอเดียที่เทคโนโลยีก็ไม่สามารถทำได้

2. ความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)

เป็นความสามารถในการตระหนักรู้ ควบคุม และแสดงอารมณ์ของตัวเอง รวมไปถึงการตระหนักรู้ถึงอารมณ์ของผู้อื่น ด้วยการจะอยู่ในสังคมที่มีความหลากหลายได้อย่างปกติสุขนั้นอาศัยความเห็นอกเห็นใจ ซื่อสัตย์ เพื่อการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติสุข คุณอาจเห็นตัวอย่างของคนที่ประสบผลสำเร็จแต่มี EQ ต่ำอย่าง Steve Job ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกไล่ออกจาก Apple เนื่องจากไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้

3. การคิดอย่างมีวิจารณญาณ

คนที่มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณจะนำมาซึ่งวิธีการแก้ปัญหาและความคิดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ โดยการใช้เหตุผลและตรรกะมากกว่าอารมณ์ส่วนตัวประกอบการมองปัญหาที่ซับซ้อน เป็นคนช่างสังเกต ไม่ด่วนสรุปแต่จะรวบรวมข้อมูลให้ได้มากเท่าที่จะทำได้ ทั้งข้อดีและข้อเสียต่อสถานการณ์นั้นๆ เพื่อเปิดใจมองหาวิธีการที่ดีที่สุด

4. การมี Mindset ที่พร้อมเติบโต

ชีวิตคือการเรียนรู้… ตราบใดที่โลกยังคงหมุนอยู่ แต่ละวันคือบทเรียนบทใหม่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่าเป็นน้ำเต็มแก้วที่ทระนงตนว่ารู้มาก เพราะยังมีอีกหลายพันล้านเรื่องที่เรายังไม่รู้ คุณจะถูกบังคับให้ติดตามข่าวสารต่างๆ ให้ทันโลก อาจเป็นการฟัง Podcast พัฒนาตนเอง การเรียนออนไลน์เพิ่มเติมนอกเหนือจากเวลางาน ลับคมมีดให้พร้อมฟันฝ่าความไม่แน่นอนอยู่เสมอ

5. คิดวิเคราะห์และการตัดสินใจ

เมื่อเครื่องจักรสามารถรับมือกับภาระงานที่ไม่จำเป็นและงานธรรมดาออกไป ส่งผลให้เราต้องโฟกัสงานที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีก เช่น การตัดสินใจเรื่องยากๆ เนื่องจากต้องมองถึงผลกระทบในวงกว้างต่อธุรกิจ รวมไปถึงความรู้สึกของพนักงาน นั่นเป็นเพราะว่าความอ่อนไหวของมนุษย์เป็นเรื่องยากเกินกว่าที่เทคโนโลยีจะจัดการให้ได้

6. ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล

การสื่อสารใครว่าไม่สำคัญ หลายครั้งที่เราพบว่าคนเก่งในองค์กรที่สื่อสารไม่เป็น มักลงท้ายด้วยการถูกเมินเฉย หรืออาจเลวร้ายถึงขั้นร่วมงานกับคนอื่นไม่ได้ คุณจึงควรฝึกฝนความสามารถในการสื่อสารให้มีประสิทธิผล ส่งมอบข้อความที่ชัดเจน เข้าใจได้ เพื่อให้แน่ใจว่ามันไปถึงผู้ฟังและถูกตีความได้อย่างถูกต้อง ลดความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์

7. ความเป็นผู้นำและการมีอิทธิพลต่อสังคม

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การเป็นผู้นำไม่ได้หมายถึงการที่คุณต้องอยู่ในตำแหน่งสูงๆ เพื่อนำทีมหลายร้อยคน แต่เป็นการที่คุณสามารถรับผิดชอบตัวเองได้และในขณะเดียวกันก็สร้างแรงบันดาลใจช่วยเหลือผู้อื่นให้เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8. ความหลากหลายและความฉลาดทางวัฒนธรรม

เมื่อโลกและสถานที่ทำงานของเรามีความหลากหลายและเปิดกว้างมากขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องมีทักษะในการทำความเข้าใจ เคารพ และทำงานร่วมกับผู้อื่นที่มีความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ภาษา อายุ เพศ รสนิยมทางเพศ ความเชื่อทางการเมืองหรือศาสนา ฯลฯ เพราะโลกเต็มไปดด้วยผู้คนที่แตกต่างกัน การยอมรับคนที่มีความเห็นต่างจะเป็นการปิดช่องโหว่และรอยรั่วของสินค้าหรือบริการที่เราอาจมองข้ามไปนำไปสู่ชัยชนะในการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ

9. ออกแบบเทคโนโลยี​/ เขียนโปรแกรม

อย่างที่ทราบกันดีว่าเหล่าบรรดาโปรแกรมเมอร์นั้นคลุกคลีอยู่กับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว จึงไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลใจมากนัก ในขณะที่ตาสีตาสาอย่างเราๆ ที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเลยต้องก้าวให้ทัน เรียนรู้โปรแกรมใหม่ๆ ที่นอกเหนือจาก Microsoft Word, Excel และ PowerPoint ได้แล้ว จะได้พูดภาษาเดียวกันเหมือนกันทั้งโลก…ภาษาคอมพิวเตอร์

10. ปรับตัวได้เร็ว รับมือความกดดันได้

อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลงที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เพราะโลกนี้มักมีเรื่องเซอร์ไพรส์อยู่ตลอดเวลา จงโอบกอดความท้าทายนี้ที่เป็นเสมือนบททดสอบขีดความสามารถของสมองมนุษย์ โดยไม่ต้องยึดติดกับสิ่งเก่าหรือความเชื่อเดิมๆ อีกต่อไป เมื่อการเปลี่ยนแปลงมาถึงก็สามารถปรับตัว ยืดหยุ่น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็น การเปลี่ยนที่ทำงานเป็น Work From Home ความคาดหวังของลูกค้า รวมไปถึงทักษะชุดเดิมที่ต้องมีการปัดฝุ่นอยู่ตลอด

คนที่ปฏิเสธการก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆ กับโลกที่หมุนเร็ว ก็ไม่ต่างอะไรกับการเดินถอยหลัง อย่าโทษโชคชะตาว่าทำไมถึงโหดร้าย ทำให้คุณตกงาน ในเมื่อคุณเองที่ไม่อนุญาตให้ตัวเองวิ่งไขว่คว้าหาโอกาส แต่เลือกที่จะรอความหวังลมๆ แล้งๆ รอความช่วยเหลือที่ไม่มีวันจะมาถึง

ที่มา :  WeForum, The Future Job Report 2020, Forbes

แชร์บทความ :
Jitkarn Sakrueangrit

Jitkarn Sakrueangrit

Graphic & Web Designer, Content Creator,
Copywriter, Marketing Specialist

คุณน่าจะชอบเรื่องเหล่านี้

get-fired-quit-job-stressed-work

ถูกเลิกจ้างกะทันหัน ทำยังไง ได้เงินชดเชยเท่าไหร่?

เช็คสิทธิที่มนุษย์เงินเดือนต้องรู้ ถ้าถูกบริษัทบอกเลิกจ้างกะทันหันในวันที่ใจไม่พร้อม ต้องทำอย่างไร เรียกร้องค่าเสียหายและเงินชดเชยได้เท่าไหร่กันนะ

อ่านเลย »

คุณรับทราบและยินยอมว่า การใช้งานเว็บไซต์นี้มีการเก็บข้อมูลคุ๊กกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ในการใช้บริการ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม