ทำไม HR ไม่ยอมแจ้งผลการสัมภาษณ์
เหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วสำหรับ HR ทั่วโลก ที่หลังจากการสัมภาษณ์มักบอกกับแคนดิเดตทุกคนว่าพวกเขาจะติดต่อกลับไปแจ้งผลสัมภาษณ์ในภายหลัง ประโยคนี้อาจจะดูธรรมดา เพราะเป็นเรื่องปกติและอยู่ในขั้นตอนการสัมภาษณ์ที่ต้องใช้เวลา แต่อย่างไรก็ตาม มีผู้สมัครเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับการติดต่อกลับจริงๆ และเป็นกลุ่มเดียวกับที่ได้รับ ‘ข่าวดี’ ทำให้ประโยค ‘เดี๋ยวติดต่อกลับ’ ถูกให้ความหมายใหม่เป็น ‘การปฏิเสธทางอ้อม’
ในขณะเดียวกัน แคนดิเดตให้ความสำคัญกับกฏระเบียบข้อบังคับและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วยการรอ… รออย่างไร้จุดหมาย หวังว่าสักวัน HR จะโทรกลับมาแจ้งผลสัมภาษณ์แม้จะเป็นการแจ้งว่าไม่ผ่านการสัมภาษณ์ก็ตามที คำถามก็คือ ทำไม HR ถึงไม่ยอมแจ้งผลสัมภาษณ์ให้จบๆ ไปว่าได้งานหรือไม่ได้ จะได้ไม่เสียเวลาคนอื่น?
เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ
กระบวนการล่าช้า
มองโลกในแง่ดีที่สุด คือ HR กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาที่มีระยะเวลานาน กระบวนการล่าช้าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เนื่องจากต้องผ่านความคิดเห็นจากหลายฝ่าย มักเกิดขึ้นกับองค์กรใหญ่ที่เก่าแก่ มีกระบวนการการทำงานที่ล่าช้าอย่างเช่น สถาบันการเงิน ข้าราชการ องค์กรของทางภาครัฐ บริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรแบบอนุรักษ์นิยม (แบบไทยๆ) พวกเขาไม่สนใจเลยว่าจะกินเวลาไปนานเท่าไหร่ แคนดิเดตจะรอไหวไหม ยิ่งเป็นตำแหน่งงานที่มีความต้องการในตลาดสูง คนสมัครเยอะด้วยแล้ว จนถึงตอนนี้เชื่อขนมกินได้เลยว่ายังสัมภาษณ์แคนดิเดตไม่ครบ สิ่งที่คุณพอจะทำได้คือต้อง…ทำใจ
ปิดรับตำแหน่งกระทันหัน
ด้วยสถานการณ์ภายในบริษัทที่มีความผันผวน ไม่แน่นอน ทำให้กระบวนการสรรหาบุคลากรเป็นไปอย่างยากลำบากและอาจปิดรับตำแหน่งไปแบบงงๆ เพื่อรอความชัดเจนจากบรรดาผู้บริหาร ซึ่งอาจกลับมาเปิดรับสมัครในภายหลังหากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ในช่วงเวลานี้เองที่ HR ต้องเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆ เพราะอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะแจ้งผู้สมัครว่าอย่างไร ครั้นจะบอกไปว่าตำแหน่งปิดรับสมัครแล้ว แต่อีกไม่กี่วันต่อมา เมื่อตำแหน่งเปิดรับสมัครอีกครั้งหนึ่งอาจถูกมองว่าทำงานไม่มืออาชีพและอาจสูญเสียแคนดิเดตเก่งๆ ไปแล้ว ดังนั้น การนิ่งเฉยเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเขาในเวลานั้น
ต้องการเปรียบเทียบเรากับคนอื่น
โปรไฟล์ของคุณก็ดูเข้าท่าดีนะ แต่ไม่ได้เป็นแคนดิเดตที่ ‘ใช่’ ซะเทีเดียว HR อยากลองสัมภาษณ์แคนดิเดตคนอื่นต่อเพื่อเปรียบเทียบ เพราะพวกเขาคิดว่าอาจมีผู้สมัครคนอื่นที่ดีกว่าในขณะเดียวกันก็ยังไม่ตัดสินใจที่จะตัดจบกับคุณด้วยความไม่แน่ใจว่าแคนดิเดตในอุดมคติจะมีตัวตนอยู่จริง อย่างที่ทราบกันดีว่าขั้นตอนการสัมภาษณ์แต่ละคนนั้นใช้เวลา อาจทำให้คุณต้องรอไปอีกพักใหญ่ กว่าจะมีความชัดเจนว่าตำแหน่งที่สัมภาษณ์ไปใครคือคนที่เหมาะสมมากที่สุด
มีแคนดิเดตที่เหมาะสมมากกว่า
บางที…การไม่โทรคือการปฏิเสธแบบสุภาพอย่างที่มีคนเคยพูดเอาไว้จริงๆ บริษัทเจอแคนดิเดตที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานมากกว่าและได้ทำการจ้างไปนานแล้ว แต่เลือกที่จะไม่แจ้งผลการสัมภาษณ์ให้ผู้สมัครที่เหลือทราบเนื่องจากไม่ต้องการให้คุณเสียกำลังใจในการหางานใหม่ ป้องกันการถูกโจมตี หรือมององค์กรในทางลบหากผลการสัมภาษณ์ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ อีกกรณีหนึ่ง HR ยังต้องการเก็บโปรไฟล์ของคุณไว้ ไม่หักหาญน้ำใจด้วยการปฏิเสธ เผื่อในวันหนึ่งหากพนักงานคนดังกล่าวไม่ผ่านโปรและลาออกกระทันหัน คุณจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่พวกเขาติดต่อกลับ
HR ทำงานไม่โปรเอง
ที่มา : ITguyresume, Indeed
Jitkarn Sakrueangrit
Graphic & Web Designer, Content Creator,
Copywriter, Marketing Specialist
คุณน่าจะชอบเรื่องเหล่านี้
โดนรั้งด้วย Counter Offer ควรรับหรือไม่
กำลังทำเรื่องลาออกจากที่ทำงานเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับที่ทำงานใหม่ โดนรั้งด้วย Counter Offer ขึ้นเงินเดือนให้ชุดใหญ่ไฟกระพริบ รับดีมั้ย
เตรียมตัวถูกสัมภาษณ์ Exit Interview ก่อนลาออก
สัมภาษณ์งานที่ใหม่จบนึกว่าจะรอด ยังต้องเตรียมสัมภาษณ์ตอนลาออกกับฝ่ายบุคคลอีกรอบ ดูเหมือนจะง่ายแต่สร้างความลำบากใจให้มนุษย์เงินเดือนอย่างเราไม่น้อย