คุณรับทราบและยินยอมว่า การใช้งานเว็บไซต์นี้มีการเก็บข้อมูลคุ๊กกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ในการใช้บริการ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
หางานอยู่ สมัครตรง หรือ สมัครผ่านเอเจนซี่ ดีกว่า?
กำลังหางานอยู่แต่ไม่รู้ว่าควร walk-in ไปสมัครตรงกับบริษัท หรือให้เอเจนซี่บริษัทจัดหางาน ข่วยหางานให้ดี เพราะไม่รู้แน่ชัดว่า มีข้อดีข้อเสียยังไงกันแน่
ในระยะหลังๆ บริษัทจัดหางาน หรือ Recruitment Agency ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดและการหางานของเหล่าแคนดิเดท บ้างก็ถูกทักใน LinkedIn โน้มน้าวใจให้ไปสมัครงานในบริษัทอื่นด้วยข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจ บ้างก็ติดต่อมาจากข้อมูลที่เรากรอกไว้ในเว็บไซต์สมัครงาน
หลายคนมีประสบการณ์ที่ดีและได้งานกับบริษัทจัดหางาน แต่หลายคนก็อกหักและเดินเตะฝุ่นไปหางานเอง แล้วคุณควรจะทำยังไงดีล่ะ? ลองดู ข้อดีของการสมัครงานผ่าน Recruitment Agency เหล่านี้แล้วค่อยตัดสินใจดู ก็ไม่น่าเสียหาย
1) ยื่นเรซูเม่ครั้งเดียวจบ
เคยไหม ? จะสมัครงานแต่ละที่ก็ต้องมาปรับแก้เรซูเม่ ยื่นสมัครงานไปหลายครั้งจนเหนื่อย แต่กับเอเจนซี่แล้วการยื่นเรซูเม่เพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ เพราะหลังจากที่พวกเขาได้รับเรซูเม่ของคุณแล้ว จะทำการโทรกลับมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นในการสมัครงานที่คุณใส่ไม่ครบ ซึ่งปกติแล้วแต่ละเจ้าจะทำเรซูเม่ขึ้นมาใหม่ในแบบฟอร์มของบริษัทจัดหางานเองเพื่อนำเสนอต่อลูกค้า โดยคุณไม่จำเป็นต้องกลับมาแก้ซ้ำๆ ให้เสียเวลา
2) Recruiter ช่วยปรับจุดอ่อน เพิ่มจุดแข็งให้โปรไฟล์ได้ดีขึ้น
หากมีงานที่ตรงกับโปรไฟล์ของคุณ จะมีการโทรหรือนัดสัมภาษณ์แบบ Pre-screening จากบริษัทจัดหางาน ทำให้เห็นจุดอ่อน-จุดแข็งของตัวเองก่อนไปสัมภาษณ์จริงจังในภายหลัง ตรงจุดนี้เองที่บริษัทจัดหางานมืออาชีพจะช่วยปรับบุคลิกภาพ รวมถึงเพิ่มเติมข้อมูลจากการสัมภาษณ์นี้ ใส่ลงไปในเรซูเม่ที่จะนำเสนอลูกค้า
3) ได้รับข้อมูล insights ในการเตรียมตัวสัมภาษณ์
ด้วยประสบการณ์ในการส่งแคนดิเดทไปสัมภาษณ์งานอยู่เรื่อยๆ ทำให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของบริษัท แนวทางการถาม-ตอบคำถามสัมภาษณ์ เพื่อให้คุณเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องในเวลาอันสั้นและทำได้ดีที่สุดในการสัมภาษณ์งาน
4) มีโอกาสได้เงินเดือนสูง เพราะเอเจนซี่ต่อรองเงินเดือนให้
ต้องเข้าใจธรรมชาติของงาน Recruiter ว่า ยิ่งเงินเดือนแคนดิเดทสูงเท่าไหร่ ค่าคอมมิชชั่นที่พวกเขาจะได้ก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น นั่นหมายความว่าเงินเดือนที่คุณได้รับเป็นเงินเรทที่สูงที่สุดเท่าที่บริษัทจะจ่ายไหวและ Recruiter จะต่อรองให้ได้ นอกจากนี้ ในกรณีที่แคนดิเดทคาดหวังเงินเดือนไว้สูงกว่าเงินเดือนของตำแหน่งนั้นๆ เอเจนซี่อาจสามารถต่อรองเงินเดือนกับบริษัทให้ได้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งถ้าสมัครตรงอาจถูกปัดตกไปตั้งแต่ส่งใบสมัครแล้ว
5) ไม่ต้องรอผลสัมภาษณ์แบบไร้จุดหมายอีกต่อไป
บรัษัทจัดหางานจะติดต่อกับผู้ที่ดูแลตำแหน่งงานนั้นๆ ได้โดยตรง ทำให้สามารถติดตามผลสัมภาษณ์ได้เกือบจะ Real-time โดยการสัมภาษณ์ในแต่ละครั้ง จะได้รับฟี้ดแบกที่ละเอียดยิบ ไม่ต้องเดาว่าได้งาน/ ไม่ได้งานเพราะอะไรกันแน่ และไม่ต้องรอนานจนลืมว่าเคยไปสัมภาษณ์มาแล้ว
6) ทำงานไปแล้วมีปัญหา Recruiter ช่วยคุยให้ได้
อย่าคิดว่าได้งานแล้วก็จบ เพราะความลับที่ Recruiter ไม่ได้บอกก็คือ ค่าคอมมิชชั่นจะได้รับอย่างสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อคุณผ่านช่วงทดลองงานแล้วเท่านั้น (ผ่านโปร) ดังนั้น พวกเขาจะคอยติดตามผลเป็นระยะหลังจากเริ่มงานเพื่อให้แน่ใจว่า คุณสบายและมีความสุขดีกับที่ทำงานใหม่โดยไม่ลาออกกลางคัน ในช่วงนี้ถ้าเกิดปัญหาและไม่รู้จะคุยกับใคร อย่าเพิ่งตัดสินใจลาออก คุณสามารถทักไปหา Recruiter เพื่อช่วยประสานงานให้ได้
7) ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ไม่ต้องเป็นกังวลใจไปว่า มีคนเสียเวลามาช่วยหางานให้ขนาดนี้จะมีค่าบริการแอบแฝงมาเซอร์ไพรส์หลังจบงานรึเปล่า เพราะทุกอย่างฟรี! บริษัทที่จ้างคุณจะเป็นคนจ่ายค่าบริการให้กับบริษัทจัดหางานเอง
แต่ถ้าใครยังลังเลอยู่ว่าจะทำยังไงดี เราทำการสรุป ข้อดี-ข้อเสีย ของแต่ละตัวเลือกไว้ที่นี่ให้แล้วค่ะ
สมัครตรง
ข้อดี
• ดำเนินการเอง ไม่ต้องผ่านตัวกลาง
• รู้ชัดเจนว่าสมัครงานอะไร บริษัทไหน ไม่ต้องเดา
• บริษัทไม่ต้องจ่ายค่าบริการให้เอเจนซี่ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพิจารณารับแคนดิเดทที่สมัครตรงเป็นอันดับแรก เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างคน
ข้อเสีย
• ต้องหางานเอง ซึ่งไม่ใช่ทุกตำแหน่งงานที่จะประกาศรับสมัครออนไลน์
• มีโอกาสถูกต่อรองลดเงินเดือนจากที่ขอ
• รอผลสัมภาษณ์งานนาน/ ไม่สามารถติดตามผลสัมภาษณ์ได้
• ต้องหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวสัมภาษณ์งานเอง ไม่มีคนแนะนำแนวทางการเตรียมตัว
สมัครผ่านเอเจนซี่
ข้อดี
• ไม่มีค่าบริการ
• มีคนช่วยต่อรองเงินเดือนให้
• มีคนช่วยหางานให้และดูแลไปตลอดจนกว่าจะได้งาน
• ติดตามผลสัมภาษณ์และรู้ผลสัมภาษณ์ได้เร็วกว่า
• มีคนแนะแนวทางการสัมภาษณ์ได้ชัดเจนเพื่อการเตรียมตัวที่ดีขึ้น
ข้อเสีย
• เอเจนซี่รู้ตำแหน่งว่างที่เปิดอยู่ก็จริง แต่โฟกัสเฉพาะ ‘ลูกค้าของเขาเท่านั้น’ ไม่ได้ครอบคลุมทุกบริษัทในตลาด
• เอเจนซี่ส่วนใหญ่จะไม่เปิดเผยชื่อบริษัท เพราะกลัวว่าแคนดิเดทจะสมัครตรงเอง
• ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในระบบของเอเจนซี่ไปตลอด ทำให้ในอนาคต Recruiter จะโทรหาบ่อยๆ เมื่อมีตำแหน่งว่าง
• ต้องเคลียร์ให้ชัดว่าเป็นตำแหน่งพนักงานประจำที่บริษัทนั้นๆ ไม่ได้ใช่พนักงานที่ถูกส่งไปในนาม Outsource ของบริษัทจัดหางาน
แชร์บทความ :
Jitkarn Sakrueangrit
Graphic & Web Designer, Content Creator,
Copywriter, Marketing Specialist
คุณน่าจะชอบเรื่องเหล่านี้
5 สิ่งที่ไม่ควรทำในช่วงหางาน
มันไม่ง่ายเลยที่จะหางานใหม่ แต่อย่าทำให้การหางานที่ยากอยู่แล้วยากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการทำแบบนี้ในช่วงหางาน รู้ก่อน เตรียมตัวก่อน จะได้ไม่พลาด
25 พฤษภาคม 2021
เทคนิคสัมภาษณ์ แนวทางการตอบคำถามยากๆ
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในตอนสัมภาษณ์ คือ การที่ผู้สัมภาษณ์ยิงคำถามยากๆ จนไม่รู้จะตอบยังไงดี เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณผ่านสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจนี้ไปได้แบบสวยงาม
4 มิถุนายน 2021