เปลี่ยนสายงาน เขียนเรซูเม่ยังไงดี by Find Your Job

เปลี่ยนสายงาน เขียนเรซูเม่ยังไงดี

อยากเปลี่ยนสายงานแต่ไม่รู้จะเขียนเรซูเม่ออกมายังไงดี เพราะทำเหมือนทุกทีก็โดนปัดตก เปลี่ยนสายงานก็ต้องเปลี่ยนวิธีการเขียนเรซูเม่ด้วย!

เรซูเม่ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของ Chronological Resume ที่เรียงเหมือนกับไทม์ไลน์บนเฟสบุ๊ค กล่าวคือเรียงจากเหตุการณ์ล่าสุดย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่เก่าที่สุด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเห็นแพทเทิร์นนี้เริ่มต้นด้วย ประสบการณ์การทำงาน เด่นมาแต่ไกล และย้อนกลับไปยัง สถาบันการศึกษา เนื่องจากการให้ความสำคัญกับสิ่งที่มีปัจจุบันมากกว่า อย่างทักษะการทำงานที่สดใหม่ ย่อมดีกว่าของเดิมที่นานวันจะยิ่งลืมเลือนไป

ในการเปลี่ยนสายงานจึงไม่นิยมเขียนในรูปแบบดังกล่าว เหตุเพราะ จุดขาย ของเราเปลี่ยนไปเดิม จากประสบการณ์การทำงาน กลายเป็นเน้น ทักษะความสามารถที่นำไปต่อยอดในงานใหม่ได้ (Transferable Skills) รูปแบบนี้ถูกเรียกว่า Functional Resume อย่างที่ปรากฏในรูปด้านล่างนี้

ตัวอย่างการเขียนเรซูเม่ เปลี่ยนสายงาน by Find Your Job

ส่วนที่ 1 แนะนำตัว

เริ่มต้นการเขียนเรซูเม่ด้วยการแนะนำตัวอย่าง ชื่อและข้อมูลติดต่อ ของคุณให้เรียบร้อย

ส่วนที่ 2 สรุปทักษะความสามารถ

เปิดตัวข้อด้วยการกล่าวสรุปทุกอย่างที่ปรากฏบนเรซูเม่ด้วย 1 พารากราฟ เพื่อเป็นการปูความเข้าใจและแจ้งให้ผู้อ่านทราบว่า คุณรู้ว่าตำแหน่งที่สมัครไม่ตรงกับสายงาน ซึ่งไม่ได้เป็นการสมัครงานผิดตำแหน่ง หากแต่เป็นความตั้งใจที่จะเปลี่ยนสายงาน เทคนิคการเขียนโน้มน้าวใจครอบคลุมหัวข้อดังต่อไปนี้

  • คุณเชี่ยวชาญทางด้านไหน
  • เขียนให้ชัดไปเลยว่าคุณอยากเปลี่ยนสายงานจากที่ทำอยู่ไปตำแหน่งที่สมัคร
  • ให้เหตุผลประกอบว่าทำไมคุณถึงเห็นว่าสายงานนี้เหมาะสม หรือ หยิบยกเอาทักษะความสามารถที่สามารถนำมาต่อยอดกับตำแหน่งนี้ได้

ส่วนที่ 3 คีย์เวิร์ดทักษะความสามารถ

ถ้า HR มองข้ามย่อหน้าด้านบนไป พื้นที่ตรงนี้จะเป็นประโยชน์เวลาที่ HR กวาดสายตาค้นหาคีย์เวิร์ดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงาน คุณจึงจำเป็นต้องอ่านรายละเอียด Job Description ให้ดี เพื่อหาคำเหล่านั้นและนำมาปรับใช้กับเรซูเม่ของคุณเอง ถ้าหากว่าคุณลงเรียนคอร์สต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถไฮไลท์ทักษะสำคัญ เพิ่มเติมหัวข้อลงได้ตรงส่วนนี้

ข้อควรระวัง: ต่างอุตสาหกรรมอาจมีคำเรียกหรือศัพท์เฉพาะที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นคุณจึงต้องทำการศึกษาในอุตสาหกรรมหรือตำแหน่งที่คุณสมัครเพื่อเลือกใช้คำที่ถูกต้อง โดยไม่เหมารวมว่าทุกคนจะเข้าใจคำศัพท์เฉพาะนั้น

ส่วนที่ 4 ประสบการณ์

หัวใจของการทำเรซูเม่แบบ Functional อยู่ตรงส่วนนี้ มันคือการที่คุณพยายามโน้มน้าวให้ผู้อ่านเห็นทักษะที่คุณมีซึ่งสามารถนำไปต่อยอดกับตำแหน่งงานที่สมัครได้ ไม่ต่างกับแคนดิเดทที่ทำงานมาตรงสาย คุณจึงจำเป็นต้องแยกเป็นหัวข้อชัดเจน ตามขอบเขตความรับผิดชอบของงานที่ปรากฏบนประกาศรับสมัคร

เพิ่ม Bullet Point เป็นข้อๆ สะดวกต่อการอ่าน และแสดง ตัวเลข ของผลงานในสายงานเดิมที่จะสะดุดตาผู้อ่านมากกว่าตัวหนังสือ เช่น ตัวเลขยอดขาย กำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ ฯลฯ โดยจะยิ่งทำให้เรซูเม่ของคุณมีน้ำหนักและน่าสนใจมากขึ้น

หัวใจของการทำเรซูเมเพื่อเปลี่ยนสายงานอยู่ตรง การโน้มน้าวให้ผู้อ่านเห็นทักษะที่คุณมี ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดกับตำแหน่งงานที่สมัครได้ ไม่ต่างจากแคนดิเดทที่ทำงานมาตรงสาย

ส่วนที่ 5 ประวัติการทำงาน

ลดความสำคัญของประวัติการทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องลง ให้เหลือเพียงชื่อตำแหน่ง บริษัทและระยะเวลาการทำงาน เนื่องจากเราได้ไฮไลท์หน้าที่รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องรวบรวมไว้แล้วในส่วนก่อนหน้า อย่าลืมว่าต้องเรียงลำดับประวัติการทำงานจากสถานประกอบการล่าสุดย้อนกลับไปยังสถานประกอบการก่อนหน้าเสมอ

ส่วนที่ 6 ประวัติการศึกษา

หากคุณจบจากสายที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัครเอาไว้ คุณสามารถย้ายส่วนนี้ขึ้นไปแสดงถัดจาก ส่วนที่ 3 คีย์เวิร์ดทักษะความสามารถ ได้เลย แต่ถ้าสาขาที่จบไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานก็ให้วางไว้ในลำดับสุดท้าย

เราเข้าใจดีว่าการหางานเป็นเรื่องยากแต่การเปลี่ยนสายงานนั้นยากยิ่งกว่า ด้วยในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันในตลาดแรงงานที่สูงมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ ขอเพียงแค่คุณมีความหวัง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค สักวันต้องเป็นวันของคุณ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

ที่มา : Glassdoor, TheBalanceCareers

แชร์บทความ :
Jitkarn Sakrueangrit

Jitkarn Sakrueangrit

Graphic & Web Designer, Content Creator,
Copywriter, Marketing Specialist

คุณน่าจะชอบเรื่องเหล่านี้

ยื่นใบสมัครไป...แต่ทำไม HR ไม่เรียกไปสัมภาษณ์ by Find Your Job

ยื่นใบสมัครงานไป…แต่ทำไม HR ไม่เรียกไปสัมภาษณ์

สมัครงานไปตั้งหลายที่ ยื่นเรซูเม่ไปตั้งหลายหน แต่ยังไร้วี่แวว ทำไมฝ่ายบุคคลถึงไม่ตอบกลับมาสักที ค้นหาเหตุผลว่าทำไม HR ไม่เรียกคุณไปสัมภาษณ์

อ่านเลย »
สอนถ่ายรูปสมัครงานด้วยตัวเอง Step-by-Step by Find Your Job

สอนถ่ายรูปสมัครงานด้วยตัวเอง Step-by-Step

รูปสมัครงาน คือ ไอเทมสำคัญในการสมัครงานที่ขาดไม่ได้ แต่ค่าถ่ายรูปแพงจนทำให้การยื่นใบสมัครแต่ละที่ต้องคิดแล้วคิดอีกว่า คุ้มค่ากับการแนบรูปไปรึเปล่า

อ่านเลย »

คุณรับทราบและยินยอมว่า การใช้งานเว็บไซต์นี้มีการเก็บข้อมูลคุ๊กกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ในการใช้บริการ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม