สัมภาษณ์ไม่ผ่าน…จะสมัครตำแหน่งเดิมอีกรอบได้ไหม

ไม่ล้มเลิก = ไม่ล้มเหลว สัมภาษณ์งานไม่ผ่านไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่ได้งานในตำแหน่งนั้นอีกเลยจนชั่วชีวิต เช็คด่วน คุณพร้อมหรือยังกับการสมัครงานตำแหน่งเดิมอีกรอบ

หลายคนรู้สึกเฟลเมื่อไม่ผ่านการสัมภาษณ์ จนพาลกลัวการสมัครงานกับบริษัทนั้นๆ ไปเลย แต่รู้หรือไม่ว่า คนที่ไม่ผิดพลาดเลย ก็คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลยในชีวิต เหมือนอย่างที่ผู้พันแซนเดอร์ส ผู้ให้กำเนิด KFC ที่โดนปฏิเสธสูตรไก่ทอด 1,009 ครั้ง ถ้าเขาล้มเลิกความคิดไปในครั้งที่ 1,008 เขาก็คงไม่ต่างอะไรกับคนแพ้ที่ทำอะไรไม่สำเร็จ ถ้าวันนี้คุณอยากสมัครงานในตำแหน่งเดิมซ้ำอีกรอบ คำถามไม่ใช่การถามว่าคุณจะสมัครได้ไหม แต่เป็นคุณต้อง ‘ทำอย่างไร’ ถึงจะสมัครได้ต่างหาก

Checklist สัญญาณดีๆ ว่าคุณสามารถสมัครงานตำแหน่งเดิมซ้ำอีกรอบได้

✅ คุณทำการตรวจสอบ แก้ไข อัพเดทเอกสารและประวัติการทำงานให้สดใหม่สอดคล้องกับตำแหน่งที่อยากสมัครแล้ว
✅ ในช่วงที่ผ่านมา คุณเพิ่มเติมประสบการณ์และมีความก้าวหน้าในหน้าที่รับผิดชอบขึ้นมาก
✅ คุณสมัครงานในตำแหน่งอาวุโส (Senior) แต่ถูกปฏิเสธ ภายหลังมีโพสต์งานลักษณะคล้ายคลึงกัน ซึ่งเปิดรับเลเวลของผู้เข้าสมัครที่จูเนียร์มากกว่า (Junior)
✅ กรณีที่ประกาศรับสมัครงานมีตัวเลขระบุจำนวนผู้สมัคร คุณพบว่าคนสมัครมีไม่เยอะ
✅ คุณยังมีคอนแท็ค / คอนเนคชั่นกับฝ่ายบุคคลหรือ Hiring Manager ที่สัมภาษณ์คุณในตอนนั้นที่สามารถสอบถามได้ตลอด

อย่าส่งเรซูเม่แบบเดียวกันกับครั้งที่แล้ว

ครั้งหนึ่ง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวไว้ว่า ‘ความวิกลจริต คือ การทำสิ่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าและคาดหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง’ ถ้าเรซูเม่ของคุณไม่สตรองมากพอในครั้งที่แล้ว มันถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเขียนเรซูเม่ใหม่ทั้งหมด โดยยึดจากฟี้ดแบกการสมัครในรอบที่ผ่านมา มีคีย์เวิร์ดคำไหนบ้างที่ผู้สัมภาษณ์พูดบ่อยๆ หรือคุณอาจใช้เทคนิคการดึงคีย์เวิร์ดทักษะสำคัญที่ปรากฏบนรายละเอียดงาน (Job Description) ใบประกาศรับสมัครงานมาใช้ จะยิ่งช่วยให้พวกเขาไม่อาจละสายตาไปจากเรซูเม่ของคุณได้

ในกรณที่สมัครงานกับบริษัทต่างชาติ อย่าลืมปรับการเขียน Cover Letter ประกอบ นำเสนอคุณสมบัติ ทักษะ จุดเด่นที่สอดคล้องกับตำแหน่งที่สมัครแบบย่อ เพื่อใช้เวลา 6 วินาทีที่ HR ใช้กวาดสายตาใบสมัครของผู้เข้าสมัครแต่ละคนได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

จงเติบโตให้มากและ ‘ดีพอ’ ที่จะสมัคร

กุญแจสำคัญของการสมัครงานตำแหน่งเดิมอีกรอบ คือ พัฒนาการของคุณ คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า คุณมีการเพิ่มพูนทักษะความสามารถที่ยังไม่ถึงมาตรฐานที่บริษัทตั้งไว้อย่างไรหลังการสัมภาษณ์ครั้งก่อน โดยอาจจะอยู่ในรูปของการเรียนคอร์สออนไลน์จนได้ใบประกาศนียบัตร การทำงานฟรีแลนซ์เพิ่มประสบการณ์ในด้านที่ไม่ถนัด หรือการประสบความสำเร็จ (Achievement) ในที่ทำงานที่สามารถเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าคุณเติบโตมากพอที่จะลบล้างความเชื่อเดิมของพวกเขาได้

เรียนรู้จากความผิดพลาด

แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบันไดต่อยอดความสำเร็จได้ ดังนั้นคุณจึงต้องให้ความสำคัญกับทุกคอมเม้นต์จากคณะกรรมการ เพื่อปรับเปลี่ยน ปรับปรุง แก้ไข ซึ่งการให้โอกาสครั้งที่สองจะยิ่งมีความกดดันมากกว่าครั้งแรก เนื่องจากผู้สมัครย่อมคาดหวังว่าจะเห็นคุณเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ถ้าหากในการสัมภาษณ์งานพวกเขายังรู้สึกถึง ‘คุณคนเดิม’ มากเท่าไร ความผิดหวังก็ยิ่งปะทุมากขึ้นเท่านั้น จงเป็นคุณคนใหม่ในเวอร์ชั่นอัพเกรดจนไม่เหลือเค้าเดิม สร้างความตื่นเต้นให้พวกเขาลุ้นว่า ถ้ามีคุณอยู่ในทีม…คุณจะสร้างปรากฏการณ์น่าทึ่งนี้ได้อย่างไรบ้าง

ติดต่อผู้สัมภาษณ์หรือคนรู้จักในบริษัทนั้นๆ โดยตรง

คอนเนคชั่นในวงการธุรกิจนั้นสำคัญมาก รู้จักคนเยอะยิ่งมีโอกาสเข้าถึงโอกาส คุณอาจติดต่อผู้สัมภาษณ์ผ่านทางลิงค์อิน โทรสอบถามกับฝ่ายบุคคลที่เคยดูแลคุณครั้งก่อน แจ้งความประสงค์ว่าคุณเคยมาสมัครงานกับที่นี่แล้วแต่ไม่ผ่านการพิจารณา โดยที่ผ่านมาคุณใช้เวลาในการแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ตามคำแนะนำของผู้สัมภาษณ์และตอนนี้คุณพร้อมสำหรับการสมัครงานแล้ว หรือคุณอาจถามไถ่เพื่อนที่ทำงานในบริษัทนั้น ฝากเรซูเม่สมัครงานไปได้โดยตรงซึ่งจะได้รับเครดิตที่ดีกว่า เพราะเพื่อนของคุณจะกลายเป็นบุคคลอ้างอิงที่ HR สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทันที

ความผิดหวังเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ อย่าเอาแต่กลัวว่าจะถูกปฏิเสธอีกครั้งเพราะอย่างน้อยถ้าคุณไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างโอกาศจะเท่ากับศูนย์ แต่ถ้าคุณตัดสินใจที่จะก้าวข้าม Comfort Zone โอกาสต้องไม่เท่ากับศูนย์แน่นอน โลกนี้ไม่มีหรอกคนแพ้…มีแต่คนที่ไม่กล้าสู้และยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ตัวเองรักเท่านั้นแหละ